EP.1 รายชื่อผู้ถูกคว่ำบาตร (Sanction List) : ความเป็นมา รายละเอียด และความเกี่ยวข้องกับประเทศไทย

EP.1  รายชื่อผู้ถูกคว่ำบาตร (Sanction List) : ความเป็นมา รายละเอียด และความเกี่ยวข้องกับประเทศไทย

          รายชื่อผู้ถูกคว่ำบาตร (Sanction List) เป็นบันทึกอย่างเป็นทางการของบุคคล หน่วยงาน หรือประเทศที่ถูกจำกัดไม่ให้ทำธุรกรรมทางการเงินหรือกิจกรรมทางธุรกิจ สืบเนื่องจากการที่รายชื่อเหล่านั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย เช่น การก่อการร้าย การฟอกเงิน การละเมิดสิทธิมนุษยชน และการแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ โดยที่รัฐบาลและองค์กรระหว่างประเทศจัดทำรายชื่อเหล่านี้ขึ้นเพื่อบังคับใช้ด้านข้อจำกัดทางเศรษฐกิจและการเมือง เพื่อรักษาและคงไว้ซึ่งความมั่นคงปลอดภัยและบูรณภาพทางการเงินในระดับสากล

มาตรการคว่ำบาตรมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการต่อสู้กับกิจกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมายและมีขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าได้มีการปฎิบัติตามบรรดากฎระเบียบระหว่างประเทศ โดยที่ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับรายชื่อมาตรการคว่ำบาตรถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับธุรกิจที่ดำเนินกิจการในประเทศไทย เนื่องจากการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ว่านี้อาจนำไปสู่ผลกระทบทางกฎหมาย ทางการเงิน และต่อชื่อเสียงอย่างร้ายแรง บทความนี้จะมุ่งเน้นที่ลักษณะของรายชื่อผู้ถูกคว่ำบาตร (sanction list) ความสำคัญของรายชื่อในระบบการเงินโลก และผลกระทบเฉพาะที่มีผลต่อธุรกิจในประเทศไทย

นิยามและวัตถุประสงค์ของรายชื่อผู้ถูกคว่ำบาตร (Sanction List)

องค์กรของรัฐบาลและองค์กรระหว่างประเทศต่าง ๆ ได้ทำการรวบรวมรายชื่อผู้ถูกคว่ำบาตร (Sanction list) เพื่อจำกัดมิให้บุคคล หน่วยงาน หรือประเทศใดประเทศหนึ่งทำธุรกิจหรือทำธุรกรรมทางการเงิน โดยที่วัตถุประสงค์หลักของการคว่ำบาตรเหล่านี้ ได้แก่ การป้องกันการสนับสนุนการก่อการร้าย การปราบปรามการฟอกเงิน และการป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามข้อมูลของคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงิน [Financial Action Task Force (FATF)] รายชื่อการคว่ำบาตร (Sanction list) ทำหน้าที่เป็นกลไกในการยับยั้งกิจกรรมที่เป็นความผิดอาญาและบังคับใช้ให้มีการปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับระหว่างประเทศ (FATF 2023)

การติดต่อทำธุรกรรมกับนิติบุคคลที่ถูกคว่ำบาตร (Sanction List) นั้นอาจมีผลให้ถูกลงโทษอย่างรุนแรง เช่น การถูกปรับเป็นเงินจำนวนมาก การถูกดำเนินคดี รวมถึงมีข้อจำกัดในการค้าระหว่างประเทศ ทำให้ธุรกิจต่าง ๆ จะต้องดำเนินการตรวจสอบอย่างรอบคอบเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้ทำธุรกรรมกับบุคคลหรือนิติบุคคลที่เป็นผู้มีรายชื่ออยู่ในรายชื่อเหล่านี้โดยไม่รู้ตัว เนื่องจากความซับซ้อนของการเงินระดับโลก การปฏิบัติตามรายชื่อการคว่ำบาตรจึงกลายเป็นประเด็นสำคัญในการบริหารความเสี่ยงขององค์กร

รายชื่อผู้ถูกคว่ำบาตร (Sanction List) ระหว่างประเทศที่สำคัญที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของไทย

รายชื่อมาตรการคว่ำบาตร (sanction list) ระหว่างประเทศหลายรายการมีผลกระทบต่อธุรกิจที่ดำเนินการในประเทศไทย รายชื่อเหล่านี้จัดทำขึ้นโดยองค์กรและรัฐบาลที่มีอิทธิพลต่อการค้าและการเงินระดับโลก โดยที่รายชื่อผู้ถูกคว่ำบาตรที่โดดเด่นที่สุด ได้แก่:

1.รายชื่อผู้ถูกคว่ำบาตรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ [United Nations Security Council (UNSC) Sanctions List)]

  • รายชื่อผู้ถูกคว่ำบาตรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC sanctions list) ประกอบด้วยบุคคล นิติบุคคล และประเทศต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมต่างๆ เช่น การก่อการร้าย การแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ และการละเมิดสิทธิมนุษยชน ในฐานะประเทศสมาชิกของสหประชาชาติ ประเทศไทยจำเป็นต้องบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรเหล่านี้และต้องปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับทางการเงิน (สหประชาชาติ 2023)

2. รายชื่อบุคคลที่ถูกกำหนดเป็นพิเศษ (SDN) ของสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ (OFAC)

  • สำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ จัดทำรายชื่อ SDN ซึ่งจะควบคุมบุคคลและธุรกิจของสหรัฐฯ ไม่ให้ติดต่อกับรายชื่อที่กำหนดนั้น โดยที่ บริษัทสัญชาติไทยที่ทำธุรกิจกับพันธมิตรในสหรัฐฯ จะต้องระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมกับนิติบุคคลที่ถูกคว่ำบาตรดังกล่าว เนื่องจากการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามอาจนำไปสู่การถูกตอบโต้ด้ววมาตรการคว่ำบาตรลำดับรอง (กระทรวงการคลังสหรัฐฯ 2023)

3. รายชื่อผู้ถูกคว่ำบาตรของสหภาพยุโรป (EU Sanction List))

  • สหภาพยุโรปบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อบุคคล องค์กร และประเทศที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ธุรกิจของไทยที่เกี่ยวข้องกับการค้ากับประเทศในสหภาพยุโรปต้องปฏิบัติตามข้อบังคับเหล่านี้เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกลงโทษทางการเงินและการหยุดชะงักของธุรกิจ (คณะกรรมาธิการยุโรป 2023)

4. รายชื่อผู้ถูกคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักร (UK Sanction List)

  • หลังจากการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) สหราชอาณาจักรได้กำหนดกรอบการคว่ำบาตรของตนเอง ซึ่งบังคับใช้กับกิจการของไทยที่ทำธุรกิจกับบริษัทของอังกฤษ การฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามอาจส่งผลให้ทรัพย์สินถูกอายัดและถูกจำกัดการค้า (รัฐบาล สหราชอาณาจักร 2023)

5. รายชื่อผู้ถูกคว่ำบาตรของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (AMLO Sanctions List) ของประเทศไทย

  • สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินของประเทศไทยบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรในระดับภายในประเทศ โดยมุ่งเป้าไปที่อาชญากรรมทางการเงินเป็นหลัก เช่น การฟอกเงินและการสนับสนุนการก่อการร้าย สถาบันการเงินและธุรกิจของไทยต้องปฏิบัติตามระเบียบของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเพื่อหลีกเลี่ยงโทษทางกฎหมาย (ปปง. 2023)

ผลกระทบทางกฎหมายและการเงินของการปฏิบัติตามมาตรการคว่ำบาตรในประเทศไทย

สำหรับบรรดาธุรกิจของไทย การปฏิบัติตามข้อกำหนดของรายชื่อผู้ถูกคว่ำบาตรไม่เพียงแต่เป็นข้อผูกพันระหว่างประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นความจำเป็นทางกฎหมายอีกด้วย ธนาคารแห่งประเทศไทยและสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินทำการควบคุมธุรกรรมทางการเงินเพื่อให้แน่ใจว่านิติบุคคลจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคลหรือองค์กรที่ถูกคว่ำบาตร โดยที่ ผลที่ตามมาทางกฎหมายจากการไม่ปฏิบัติตามอาจรวมถึง:

1. บทลงโทษทางการเงินและการอายัดทรัพย์สิน

  • ธุรกิจหรือการดำเนินกิจการที่ทำธุรกิจกับบุคคลหรือหน่วยงานที่ถูกคว่ำบาตรอาจมีผลให้ต้องถูกปรับและโดนอายัดทรัพย์สินจำนวนมาก โดยที่หน่วยงานกำกับดูแล เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทยและสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กำหนดบทลงโทษเหล่านี้เพื่อบังคับใช้กฎหมายการเงินระหว่างประเทศ (ธนาคารแห่งประเทศไทย 2023)

2. ความเสี่ยงด้านชื่อเสียง

  •  การมีปฏิสัมพันธ์กันกับหน่วยงานที่ถูกคว่ำบาตรอาจสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของบริษัทได้ และยังอาจทำให้เป็นการยากในการหาผู้ร่วมลงทุน พันธมิตรทางธุรกิจ และการขอรับบริการทางการเงิน โดยที่สถาบันการเงินระดับโลกอาศัยรายชื่อการคว่ำบาตรเพื่อประเมินความเสี่ยง และธุรกิจใด ๆ ที่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามอาจปฎิเสธหรือถูกกีดกันออกจากตลาดการเงินระหว่างประเทศ (ธนาคารโลก 2023)


3. การดำเนินคดีทางกฎหมายและความรับผิดทางอาญา

  • การฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านการคว่ำบาตรอาจนำไปสู่ผลทางกฎหมาย รวมถึงการฟ้องร้องและข้อกล่าวหาทางอาญาที่อาจเกิดขึ้นกับผู้บริหารที่รับผิดชอบ โดยที่กฎหมายของไทยกำหนดให้ปฏิบัติตามมาตรการปฏิบัติตามกฎหมายการเงินอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันมิให้เกิดกิจกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมาย (องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา OECD 2023)

กรณีศึกษาเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรที่มีผลกระทบต่อธุรกิจของไทย

มีตัวอย่างหลายกรณีที่แสดงให้เห็นถึงผลกระทบของการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรต่อธุรกิจของไทย กรณีเหล่านี้จึงเป็นกาครเน้นย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของการปฏิบัติตามและการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริง 

1.การละเมิดมาตรการคว่ำบาตรในอุตสาหกรรมการเดินเรือของไทย

  • บริษัทการเดินเรือของไทยแห่งหนึ่งต้องเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรหลังจากพบว่าขนส่งสินค้าในนามของนิติบุคคลของเกาหลีเหนือที่อยู่ในรายชื่อ OFAC SDN ของสหรัฐฯ ส่งผลให้บริษัทต้องเผชิญกับข้อจำกัดในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจทั่วโลกของบริษัท (สำนักข่าวรอยเตอร์ 2022)

2. สถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้การสอบสวน

  • สถาบันการเงินรายใหญ่ของไทยแห่งหนึ่งตกอยู่ภายใต้การตรวจสอบเนื่องจากได้อำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมที่เชื่อมโยงกับนิติบุคคลสัญชาติรัสเซียที่ถูกคว่ำบาตร หลังจากที่รัสเซียถูกคว่ำบาตรทั่วโลก ธนาคารแห่งนี้ต้องเผชิญกับการสอบสวนด้านกฎระเบียบ ส่งผลให้ชื่อเสียงเสียหายและการดำเนินงานหยุดชะงัก (หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ 2023)

แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการปฏิบัติตามมาตรการคว่ำบาตรในประเทศไทย

เพื่อลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดมาตรการคว่ำบาตร ธุรกิจต่าง ๆ  ของไทยควรใช้กลยุทธ์การปฏิบัติตามมาตรการที่เข้มงวด ทั้งนี้ แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดบางประการ ได้แก่:

1.การคัดกรองการคว่ำบาตรอย่างครอบคลุม

  • ธุรกิจต่าง ๆ ควรใช้เครื่องมือคัดกรองการคว่ำบาตรขั้นสูงเพื่อตรวจสอบสถานะลูกค้า ซัพพลายเออร์ และพันธมิตรกับรายชื่อผู้ถูกคว่ำบาตรทั่วโลกหลายรายการ โซลูชั่นของการปฏิบัติตามข้อกำหนดอัตโนมัติสามารถช่วยให้องค์กรตรวจจับหน่วยงานที่มีความเสี่ยงสูงได้ก่อนการทำธุรกรรมใด ๆ (AML Solution 2023)

2. การระบุตัวตนลูกค้า (KYC) และการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า

  • การดำเนินการตามขั้นตอน KYC อย่างละเอียดและการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้าที่มีความเสี่ยงสูง (EDD) สามารถช่วยให้ธุรกิจระบุความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจได้ (FATF 2023)

3. การเฝ้าติดตามอย่างต่อเนื่องและการฝึกอบรมการปฏิบัติตามข้อกำหนด

  • รายชื่อผู้ถูกคว่ำบาตรได้รับการอัปเดตให้เป็นปัจจุบันบ่อยครั้ง ดังนั้น การเฝ้าตรวจสอบติดตามอย่างต่อเนื่องจึงมีความจำเป็นเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนด นอกจากนี้ ธุรกิจต่าง ๆ ควรจัดให้มีการฝึกอบรมพนักงานเกี่ยวกับกฎระเบียบการคว่ำบาตรและการจัดการความเสี่ยงเป็นประจำ (IMF 2023)

บทสรุป

รายชื่อผู้ถูกคว่ำบาตร (sanctions sist) มีบทบาทสำคัญในการควบคุมธุรกรรมทางการเงินระดับโลกและในการป้องกันกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย สำหรับธุรกิจต่าง ๆ ของไทยนั้น การปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านการคว่ำบาตรระหว่างประเทศและในประเทศถือเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อหลีกเลี่ยงการลงโทษทางการเงิน ความเสียหายต่อชื่อเสียง และผลกระทบทางกฎหมาย โดยการนำมาตรการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่มีประสิทธิภาพ เช่น การคัดกรองการคว่ำบาตร การตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า และการเฝ้าติดตามอย่างต่อเนื่องมาใช้ ธุรกิจต่างๆ ก็จะสามารถปกป้องการดำเนินงานและรักษาความสมบูรณ์ของกฎระเบียบได้

ทั้งนี้ ด้วยการตรวจสอบกฎระเบียบที่เพิ่มมากขึ้น ธุรกิจต่างๆ ในประเทศไทยต้องดำเนินการอย่างจริงจังเกี่ยวกับการปฏิบัติตามมาตรการคว่ำบาตรเพื่อให้แน่ใจว่าการดำเนินงานระหว่างประเทศจะราบรื่นและป้องกันการหยุดชะงักที่อาจเกิดขึ้นได้ การใช้บริการด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างมืออาชีพ เช่น เครื่องมือคัดกรองการป้องการและปราปปรามการฟอกเงิน (AML) จะสามารถลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยให้กับธุรกิจได้อย่างมาก

บรรณานุกรม

AMLO. Thailand’s Anti-Money Laundering Office Sanctions List. 2023.
Bank of Thailand. Regulatory Implications of Sanctions for Thai Businesses. 2023. Bangkok Post. Thai Financial Institutions and Compliance Risks. 2023.
European Commission. EU Sanctions Policy and Compliance. 2023.
Financial Action Task Force (FATF). International Standards on Combatting Money Laundering and Terrorist Financing. 2023.
IMF. Sanctions and Their Economic Impact. 2023.
OECD. Global Sanctions Compliance Guidelines for Businesses. 2023.
Reuters. Thai Shipping Firm Blacklisted Over North Korea Sanctions. 2022. U.S.
Department of the Treasury. OFAC SDN List and Compliance Obligations. 2023. UK Government. Sanctions and Financial Restrictions Post-Brexit. 2023.
United Nations. UN Security Council Sanctions List and Implementation. 2023.
World Bank. The Reputational Risks of Non-Compliance with Sanctions. 2023.

Powered by MakeWebEasy.com